เครื่องชี้วัดภาวะเศรษฐกิจ
เครื่องชี้วัดภาวะเศรษฐกิจมหภาคซึ่งอยู่บนพื้นฐานของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP), ผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ (GNP) และข้อมูลทางสถิติอื่นสามารถใช้ในการอธิบายสถานการณ์และประสิทธิภาพของเศรษฐกิจประเทศ ซึ่งจะประกาศออกมาในรูปของรายงานและส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่ออัตราค่าเงิน ต่อไปนี้คือรายการเครื่องชี้วัดภาวะเศรษฐกิจมหภาคที่สำคัญ:
-
ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(GDP)ตัวชี้วัดที่สำคัญที่สุดคือการรายงาน GDP โดยทั่วไป GDPเป็นตัวชี้วัดที่กว้างที่สุดในเศรษฐกิจของรัฐ GDP คือค่าเงินรวมของทุกสินค้าและการบริการที่ถูกผลิตออกมาในเศรษฐกิจในแต่ละช่วงไตรมาศ (ไม่รวมกิจกรรมระหว่างประเทศ)ตัวเลขที่สำคัญนั้นดูจากอัตราการเติบโตของGDP โดยทั่วไปแล้วการเบี่ยงเบนไปจากระดับปกติสามารถพิสูจน์ได้ถึงความอิทธิพล การเจริญเติบโตเหนือระดับนี้มักจะถูกคิดว่าไม่ยั่งยืนและเป็นตัวบ่งบอกถึงการเกิดอัตราเงินเฟ้อสูง หากการเติบโตต่ำกว่าช่วงนี้แล้วหละก็(โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเติบโตในเชิงลบ)ซึ่งหมายความว่าเศรษฐกิจกำลังเติบโตช้าซึ่งจะนำไปสู่การว่างงานเพิ่มขึ้นและการใช้จ่ายที่ต่ำกว่าปกติ เป็นที่น่าสังเกตว่าแต่ละรายงานของ GDP ในครั้งแรกจะถูกปรับเปลี่ยนถึง 2 ครั้งด้วยกันก่อนที่ตัวเลขล่าสุดจะถูกตัดสินออกมา : การรายงานล่วงหน้าจะถูกตามด้วยการรายงานเบื้องต้นประมาณหนึ่งเดือนต่อมาและรายงานครั้งสุดท้ายจะถูกรายงานออกมากอีก1เดือนหลังจากนั้น การแก้ไขอย่างมีนัยสำคัญของการายงานตัวเลขล่วงหน้าก่อให้เกิดคลื่นระลอกใหม่เพิ่มในการตลาด
อย่าสับสนระหว่างผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศและผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ (GNP) GDPนั้นรวมถึงสินค้าและบริการที่ผลิตออกมาภายในขอบเขตทางภูมิศาสตร์ของประเทศเท่านั้นโดยไม่คำนึงถึงสัญชาติของผู้ผลิต ส่วนGNPนั้นไม่รวมถึงสินค้าและบริการที่ผลิตโดยบริษัทต่างประเทศแต่รวมถึงสินค้าและบริการที่ผลิตโดยบริษัทแห่งชาติที่อยู่ในต่างประเทศ ตัวอย่างเช่น หากบริษัทของประเทสสหรัฐมีเครือข่ายธุรกิจการค้าในประเทศฝรั่งเศส สินค้าและบริการที่ผลิตโดยร้านค้าเหล่านั้นจะไม่รวมอยู่ในGDPแต่จะรวมอยู่ใน GNP ขณะที่เศรษฐกิจโลกเติบโตขึ้น ความแตกต่างของGDP และ GNP นั้นลดลงในประเทศที่พัฒนาแล้วเช่นสหรัฐอเมริกาแต่สำหรับประเทศกำลังพัฒนาความแตกต่างนั้นมีไม่มาก -
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)CPI เป็นตัวชี้วัดในการวัดภาวะเงินเฟ้อที่ใช้กันแพร่หลายมากที่สุด เป็นตัวเลขที่แสดงระดับราคาในตะกร้าตลาดของสินค้าอุปโภคบริโภคและบริการจากผู้ประกอบการรวมถึงสินค้ากว่า200ชนิดและผลิตภัณฑ์อีกกว่า1000 ประเภท ตั้งแต่อาหารไปจนถึงพลังงานและสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีราคาแพง ราคาจะถูกวัดโดยตัวอย่างของราคาสินค้าจากร้านที่แตกต่างกัน นอกเหนือจากตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคโดยรวมแล้วรายงานดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานก็เป็นสิ่งสำคัญซึ่งไม่รวมสินค้าที่มีความผันผวน เช่น อาหารและพลังงาน โดยจะให้ผลของการวัดอัตราเงินเฟ้อที่ใกล้เคียงที่สุด รายงานของตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคส่วนใหญ่แล้วจะรวมถึงตัวเลขทั้งหมดและตัวเลขหลัก นอกจากนี้ยังมีดัชนีความกลมกลืนของราคาผู้บริโภค(HICP) ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ของอัตราเงินเฟ้อและเสถียรภาพของราคาในธนาคารกลางยุโรป (ECB) และเป็นดัชนีราคาผู้บริโภคที่สอดคล้องกันทั่วทุกประเทศในสหภาพยุโรป HICP ถูกสร้างขึ้นแต่ละประเทศในสหภาพยุโรปเพื่อช่วยในการวัดอัตราเงินเฟ้อและเพื่อเป็นแนวทางแก่ ECBในการสร้างนโยบายการเงิน นอกจากนี้ HICP ยังถูกใช้เป็นพื้นฐานของดัชนีราคาผู้บริโภคในยุโรปเพื่อเป็นการถ่วงดุลค่าใช้จ่ายในครัวเรือนอีกด้วย
-
ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI)PPI คือ1 ใน 2 วิธีพื้นฐานที่ใช้เป็นตัวบ่งชี้อัตราเงินเฟ้อ (อีกอันหนึ่งคือ CPI) ดัชนีราคาขายส่งเป็นดัชนีราคาที่ใช้วัดการเปลี่ยนแปลงของราคาขายส่งสินค้าดังนั้นขณะที่ CPI ติดตามการใช้จ่ายของผู้บริโภค PPI จะแสดงให้เห็นถึงเปลี่ยนแปลงราคาสินค้าโดยเฉลี่ยที่ผู้ผลิตได้รับช่วงเวลาหนึ่ง ประเภทของ PPI ในการวัดราคาของสินค้ามี 3 ประเภทด้วยกันคือ น้ำมันดิบ สินค้ากึ่งสำเร็จรูปและสินค้าสำเร็จรูป น้ำมันดิบเป็นวัตถุดิบที่ใช่ในการผลิตสินค้าบางชนิด สินค้ากึ่งสำเร็จรูปคือส่วนประกอบของสินค้าขนาดใหญ่และสินค้าสำเร็จรูปคือสิค้าที่ขายให้กับตัวแทนจำหน่าย
สินค้าสำเร็จรูปเป็นสินค้าที่ถูกจับตามองมากที่สุดเพราะเป็นมาตรวัดที่ดีที่สุดเพราะเป็นสินค้าที่ผู้บริโภคเป็นผู้จับจ่ายเพื่อนำมาใช้สอย หลักของ PPI คือในการวัดราคาสินค้าซึ่งจะถูกประเมินโดยผู้ผลิตสินค้าและบริการซึ่งไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน -
ตัวชี้วัดการจ้างงานหนึ่งในตัวชี้วัดของเศรษฐกิจมหภาคที่สำคัญคือ อัตราการว่างงานซึ่งเป็นเปอร์เซ็นต์ของแรงงานที่ว่างงานภายในช่วงเวลา 18 ปีในความสัมพันธ์ของกำลังแรงงานโดยรวม จากการสำรวจความคิดเห็นโดยสุ่มกลุ่มตัวอย่างจากกว่า 60,000 ครัวเรือนและโรงงงาน 375,000 แห่ง อัตราการว่างงานนั้นคำนวณโดยนำจำนวนของผู้ว่างงานหารกับจำนวนผู้ใช้แรงงานโดยจำนวนของแรงงานคือผลรวมของผู้ตกงานและลูกจ้าง อัตราการว่างงานโดยทั่วไปแล้วคิดเป็นประมาณ 4-5% ของกำลังแรงงานทั้งหมดซึ่งจะถือว่าเป็นตัวบ่งชี้ความกดดันของเงินเฟ้อที่เป็นไปได้จากการเพิ่มขึ้นของค่าจ้าง รายได้ก็จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วพร้อมกับมีอัตราการว่างงานน้อยลงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่อัตราเร่งของอัตราเงินเฟ้อนั้นเป็นไปตามที่คาดหวัง
นอกจากนี้ยังมีรายงานการทุ่มตลาดเฉลี่ยและรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง ควรจำไว้เสมอว่ากำลังแรงงานไม่ได้มาจากประชากรทั้งหมดมันเป็นส่วนย่อยของคนที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ที่กำหนดเท่านั้น อัตราการว่างงานเป็นตัววัดสำคัญของสภาพทางเศรษฐกิจในขณะที่รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงส่งผลกระทบต่อตัวเลขอัตราเงินเฟ้อ
Non-Farm Payrolls หรือที่เรียกกันว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกตรกรรมเป็นตัวบ่งชี้พื้นฐานในการวัดงานที่เพิ่มขึ้นในเดือนทีผ่านมา การรายงานนั้นไม่รวมงานที่เกี่ยวข้องกับภาคเกตรกรรมเพราะว่ามันมีแนวโน้มไปตามฤดูกาลซึ่งไม่จำเป็นต้องบ่งบอกถึงจากแนวโน้มการจ้างงาน
นอกจากนี้รายงานมาตรฐานนี้แล้ว เจ้าหน้าที่ทางสถิติของสหรัฐอเมริกาได้เปิดเผยเกี่ยวกับจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของการยื่นขอสิทธิประโยชน์จากการว่างงานเป็นครั้งแรกซึ่งตัวเลขเหล่านี้จะช่วยตัดสินในตลาดแรงงาน
อีกหนึ่งรายงานที่สำคัญของการจ้างงานในสหรัฐฯคือรายงานการจ้างงานแห่งชาติ ADP รายงานว่าการประมาณการเปลี่ยนแปลงการจ้างงานของสหรัฐฯ นั้นมีมูลค่าจ้างงานมากกว่า 500,000 บริษัทจากจากการประมวลผลข้อมูลอัตโนมัติ Inc. (ADP) ข้อมูลนี้ถูกรวบรวมโดยที่ปรึกษาเศรษฐกิจมหภาคซึ่งเป็นรายงานที่แสดงตัวเลขรวมตลอดจนกลุ่มที่กำหนดโดยขนาดของบริษัท สินค้า vs การบริการ และบริษัทที่มีการผลิต vs บริษัทที่ไม่มีการผลิต -
ดัชนีการค้าปลีกดัชนีการค้าปลีกเป็นตัวชี้วัดของสินค้าที่ขายภายในอุตสาหกรรมค้าปลีกจากร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ไปยังร้านค้าเล็กๆในท้องถิ่น จากการสุ่มตัวอย่างของชุดร้านค้าปลีกทั่วประเทศ รายงานฉบับนี้สะท้อนให้เห็นถึงข้อมูลของเดือนที่ผ่านมา นักวิเคราะห์หลายคนมักจะมองไปที่ตัวเลขแต่ไม่รวมรถยนต์ซึ่งหมายความว่าไม่มีการรวมตัวเลขของยอดขายรถยนต์เพราะมีความผันผวน ตัวเลขนี้ถือว่าจะเป็นตัวชี้วัดที่ดีของแนวโน้มการซื้อทุกประเภท การรายงานนี้ไม่รวมถึงเงินที่ใช้ในการบริการนั่นก็หมายความว่าตัวเลขนั้นจะน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของการบริโภคทั้งหมดในช่วง1 เดือน อย่างไรก็ตามถึงแม้จะมีข้อจำกัดหลายข้อตัวเลขนี้จะถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดในฐานะเป็นตัวบ่งชี้ทางเศรษฐกิจของรัฐ
-
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคถือเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของสภาพทางเศรษฐกิจ รายงานนี้บ่งบอกถึงความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่มีต่อสถานะทางเศรษฐกิจของประเทศและศักยภาพในการใช้จ่ายของพวกเขา จากความคิดที่ว่า หากผู้บริโภครู้สึกมั่นใจมากขึ้นในด้านความมั่นคงของรายได้ ก็จะทำให้มีพวกเขาโอกาสที่จะซื้อหรือบริโภคสินค้ามากขึ้น ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคถูกตรวจสอบโดยการกลุ่มตัวอย่างประมาณ 5,000 ครัวเรือนหรือแม้กระทั่งการวัดจํานวนความช่วยเหลือผ่านการโฆษณาในหนังสือพิมพ์ เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นในตลาดแรงงานของรัฐ นักวิเคราะห์หลายคนเชื่อว่าความเชื่อมั่นของผู้บริโภคนั้นสามารถแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจได้มากทีเดียว เมื่อถึงจุดหนึ่งที่เศรษฐกิจทรุดตัวลง ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและการใช้จ่ายสูงสม่ำเสมอจะช่วยคลี่คลายปัญหาและช่วยจุดประกายกู้คืนเศรษฐกิจให้ดีขึ้นอีกครั้ง
-
รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจเป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมการในการประชุมของคณะกรรมการตลาดกลางและได้ถูกตีพิมพ์ 8 ครั้งต่อปี รายงานนี้จะเปิดตัวในวันพุธ เวลาบ่าย2โมง15นาทีตามเวลามาตรฐานตะวันออก โดยจะรายงานทุกๆ2อาทิตย์ก่อนการประชุม คณะกรรมการจะเป็นผู้กำหนดนโยบายการเงินในแต่ละครั้ง หนังสือเล่มนี้ถือเป็นบทสรุปของภาวะเศรษฐกิจในแต่ละภูมิภาคของธนาคารกลางสหรัฐฯ รายงานฉบับนี้ถือเป็นตัวบ่งชี้ถึงสิ่งที่ธนาคารกลางสหรัฐฯจะกระทำในการประชุมที่จะเกิดขึ้น
-
ยอดการสั่งซื้อสินค้าคงทนการรายงานยอดการสั่งซื้อสินค้าคงทนเป็นดัชนีชี้วัดว่าคนในสหรัฐฯมีการใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้าในระยะยาวมากน้อยแค่ไหน (หมายถึงสินค้าที่มีอายุการใช้งานอย่างน้อย 3 ปีขึ้นไป ) โดยการายงานจะเริ่มเมื่อเวลา 8โมง 30 นาทีตามเวลามาตรฐานตะวันออกในวันที่ 26 ของทุกเดือนโดยจะแสดงให้เห็นถึงข้อมูลเชิงลึกของอุตสาหกรรมการผลิตในอนาคต รายงานนี้จะถูกแบ่งตามประเภทอุตสาหกรรมซึ่งช่วยขจัดผลกระทบจากอุตสาหกรรมที่มีความผันผวนเช่นเดียวกับการป้องกันการใช้จ่ายที่โดยภาพรวมแล้วนักลงทุนมีความกังวลอยู่และตลาดจะถูกย้ายโดยแนวโน้มทั่วไปในอุตสาหกรรม
-
ยอดคำสั่งซื้อจากโรงงานตัวบ่งชี้สัญญาณความต้องการของอุตสาหกรรมที่คงทนและไม่คงทน การเพิ่มขึ้นจากการอ่านตัวบ่งชี้นั้นแสดงให้เห็นถึงการเจริญเติบโตที่เป็นไปได้ของกิจกรรมการผลิตในขณะที่สัญญาณลดลงของตัวบ่งชี้นั่นคืออีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้อัตราสกุลเงินขึ้นๆลงๆ ตัวบ่งชี้นี้รวมถึงการสั่งซื้อสินค้าคงทนและยอดสั่งซื้อสินค้าไม่คงทน ตัวบ่งชี้ยอดการสั่งซื้อสินค้าคงทนนั้นหมายถึงสินค้าที่มีอายุการใช้งานอย่างน้อย 3 ปีขึ้นไป เช่น รถยนต์ เฟอร์นิเจอร์ วัสดุก่อสร้างซึ่งมีมากกว่า 50ชนิด คำสั่งซื้อสินค้าไม่คงทนนั้นรวมถึง อาหาร เสื้อผ้า สินค้าอุตสาหกรรมเบา ฯลฯ คำสั่งซื้อจากโรงงานจะเป็นตัวรายงานลักษณะกิจกรรมของการผลิต ตัวบ่งชี้ที่เพิ่มขึ้นเป็นปัจจัยบวกสำหรับเศรษฐกิจ ในขณะที่การลดลงของตัวบ่งชี้จะเป็นสัญญาณของการชะลอตัวของเศรษฐกิจ
-
บัญชีกระแสรายวันบัญชีกระแสรายวันคือผลรวมของยอดเงิน (กล่าวคือรายได้สุทธิในการส่งออกลบกับจำนวนเงินที่ถูกชำระเงินจากการนำเข้าสินค้า) รายได้ (กำไรจากการลงทุนในต่างประเทศลบกับการชำระเงินให้กับนักลงทุนต่างประเทศ)และการโอนเงิน ยอดเงินคงเหลือในบัญชีปัจจุบันคือหนึ่งในสองมาตรการสำคัญของลักษณะของการค้าต่างประเทศของประเทศ (ที่เป็นเงินทุนไหลออกสุทธิอื่นๆ) ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลจะช่วยเพิ่มสินทรัพย์ต่างประเทศสุทธิของประเทศตามจำนวนเงินที่สอดคล้องกันและขาดดุลบัญชีเดินสะพัดไม่ย้อนกลับ การชำระเงินของทั้งภาครัฐและเอกชนจะรวมอยู่ในการคำนวณนี้ด้วย ที่ต้องเรียกว่าบัญชีกระแสรายวันก็เพราะว่าสินค้าและบริการนั้นถูกบริโภคในปัจจุบัน
-
ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกการรายงานข้อมูลรายสัปดาห์นี้ระบุถึงจำนวนของผู้มาร้องเรียนค่าตอบแทนยังกรมการจัดหางาน ข้อมูลนี้ยังเป็นปัจจุบันอยู่แต่มักจะลวงตัวบ่งชี้แนวโน้มเศรษฐกิจ การเพิ่มขึ้นหรือลดลงของจำนวนผู้ว่างานที่มาเรียกร้องในครั้งนี้เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการชะลอตัวหรือการเร่งตัวของเศรษฐกิจ ในแง่นี้รายงานฉบับนี้ในยังไม่ค่อยมีอิทธิพลอะไรในตลาดมากนักไม่มีแม้กระทั่งผลกระทบต่อพฤติกรรมการซื้อขาย เนื่องจากความแปรปรวนของข้อมูลรายสัปดาห์ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ต้องการตรวจสอบค่าเฉลี่ยนเคลื่อนที่ในรอบ 4 สัปดาห์เพื่อทำการอ่านข้อมูลที่แตกต่างกันในขณะทำการตัดสินแนวโน้มตลาดหลัก โดยปกติแล้วการชดใช้ด้วยเงิน (ประมาณ 30K) ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มที่สำคัญ การลดลงอย่างต่อเนื่องในการเรียกร้องสวัสดิการว่างงานครั้งแรกนั้นเป็นสัญญาณของการเติบโตทางเศรษฐกิจและการพัฒนาในตลาดแรงงานและทำให้เงินดอลลาร์เจริญเติบโต การอ่านข้อมูลที่มีตัวเลขสูงกว่า 400,000 คะแนนเท่ากับตลาดแรงงานกำลังมีปัญหา
-
การสำรวจ Tankanเพื่อเขียนรายงานจากการสำรวจนักธุรกิจประมาณ 8-10000คนจากขอบเขตทางเศรษฐกิจที่แตกต่างกัน จากจำนวนบริษัทในทั้งหมดนั้นมี10-15 บริษัทเป็นองค์กรขนาดใหญ่ 30-35 บริษัทเป็นองค์กรขนาดกลางและอีก 50-55บริษัทที่เป็นองค์กรขนาดเล็กจะถูกสอบถามเกี่ยวกับ
1) สภาพแวดล้อมทางธุรกิจ
2) การผลิตและการขาย
3) อุปสงค์และอุปทาน
4) ระดับราคา
5)กำไร
6) การลงทุนโดยตรง
7)การจ้างงาน
8)เงื่อนไขทางการคลัง
ผู้จัดการระดับสูงจะถูกสำรวจความคิดเห็นรายบุคคล วิธีการประเมิน : ดัชนีแพร่(DI) — «เห็นด้วย» ลบ «ไม่เห็นด้วย», %คะแนน, เปอร์เซ็นต์เปลี่ยนแปลง— การเปลี่ยนแปลงของดัชนีในความสัมพันธ์กับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน การสำรวจนี้จะช่วยเพิ่มสัญญาณของการปรับปรุงสภาพทางเศรษฐกิจและเป็นการช่วยเพิ่มขึ้นค่าเงินเยนญี่ปุ่นอีกด้วย -
การสำรวจ ZEWการสำรวจ ZEW เป็นตัวบ่งชี้หลักที่บ่งบอกถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนโดยการคำนวณจะอยู่บนพื้นฐานของนักวิเคราะห์ 350 คนและจากการสำรวจความคิดเห็นของสถาบันนักลงทุน ตัวบ่งชี้ที่สะท้อนให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างนักวิเคราะห์ที่แง่คิดที่ดีเกี่ยวกับการเตรียมพร้อมด้านการพัฒนาทางเศรษฐกิจในเยอรมนีภายในช่วง 6 เดือนกับผู้ที่มีแง่คิดตรงกันข้าม หากผู้ตอบแบบสอบถามเป็นพวกที่มีแง่คิดที่ดีจะมีผลการอ่านวิเคราะห์มากกว่า 0 หากผู้ตอบแบบสอบถามมีแง่คิดที่ไม่ดีผลคือต่ำกว่า 0 ตัวอย่าง: หากนักวิเคราะห์ 30 คนเป็นพวกคิดในแง่ดี 30 คน อีก 30 คนคือมีความเห็นเป็นกลาง อีก 40 คน เป็นพวกคิดในแง่ร้าย การอ่านค่าการวิเคราะห์คือ -10 การสำรวจนี้ใช้สำหรับการประเมิณแนวโน้มทางเศรษฐกิจของเยอรมนี การสำรวจ ZEWเป็นตัวกระตุ้นการเจริญเติบโตของค่าเงินยูโร
-
ค่าใช้จ่ายการบริโภคส่วนบุคคล (PCE)PCE เป็นตัวชี้วัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าอุปโภคบริโภคและบริการ ค่าใช้จ่ายในการบริโภคส่วนบุคคลประกอบด้วยค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงและค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ข้อมูลรวมของตัวชี้วัดเกี่ยวข้องกับสินค้าคงทน สินค้าไม่คงทนและการบริการ
PCEเป็นการรายงาน (รายได้ส่วนบุคคลส่วนหนึ่ง)เช่นเดียวกับCPI ถูกนำเสนอโดยสำนักวิเคราะห์เศรษฐกิจกระทรวงพาณิชย์
PCE เป็นรายงานการคาดการณ์อย่างเป็นธรรมที่มีผลกระทบต่อตลาดเพียงเล็กน้อย -
รายได้ส่วนบุคคลรายได้ส่วนบุคคลเป็นตัววัดรายได้ในครัวเรือนจากแหล่งที่มาทั้งหมดก่อนหักภาษีรายได้ส่วนบุคคลซึ่งจะรวมถึงรายได้จากค่าเช่า ค่าดอกเบี้ย การชำระเงินอุดหนุนรัฐบาล รายได้เงินปันผล เป็นต้น รายได้ส่วนบุคคลบ่งบอกถึงความต้องการของผู้บริโภคในอนาคตวึ่งถูกรายงานร่วมกับการใช้จ่ายส่วนบุคคล การเพิ่มขึ้นของรายได้ส่วนบุคคลอาจช่วยให้การค้าปลีกเติบโตมากขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจและช่วยเพิ่มค่าเงินดอลล่าร์สหสหรัฐ
-
การใช้กำลังการผลิตตัวบ่งชี้นี้ตัวตัวบ่งชี้ถึงระดับของการใช้กำลังการผลิตในภาคอุตสาหกรรมซึ่งเป็นอัตราส่วนของการส่งออกทั้งหมดจนถึงจุดสูงสุดและยังแสดงให้เห็นสถานะปัจจุบันของเศรษฐกิจ มูลค่าที่เหมาะสมของตัวบ่งชี้นี้คือ 81.5% หากมีมูลค่ามากกว่า 85%ขึ้นไป เป็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจตื่นตัวมากจนเกินไป มูลค่าที่ต่ำกว่าจะหมายถึงค่าสกุลเงินและเศรษฐกิจอ่อนตัวลง
-
การสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดย University of Michiganการสำรวจความเชื่อมั่นของผู้บริโภครายเดือนจัดทำโดย University of Michiganเพื่อการตรวจสอบความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ที่จริงแล้วความเต็มใจของผู้บริโภคในการใช้จ่ายนำมาใช้เป็นตัววัดซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญของสภาพภูมิอากาศของผู้บริโภค ประกอบด้วย 2 ส่วน: ความรู้สึก (ประมาณ 40% ของดัชนีทั้งหมด) และความคาดหวัง (อีก 60%)ผู้บริโภคประมาณ 500 คนร่วมตอบคำถาม 5 ข้อเกี่ยวกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในปัจจุบันและอนาคต (2และ3คำถามคล้าย ๆ กัน) คำตอบของ2คำถามแรกคือการสำรวจรูปแบบสภาพปัจจุบัน ในขณะที่3 คำถามหลังเป็นคำถามดัชนีความคาดหวัง การเพิ่มขึ้นของดัชนีเป็นสัญญาณเชิงบวกของการเติบโตทางเศรษฐกิจ ในขณะที่ดัชนีลดลงนั่นก็เป็นสัญญาณของการเจริญเติบโตที่ชะลอตัวของเศรษฐกิจ ดัชนีเพิ่มขึ้นก็ส่งผลให้ค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯเพิ่มขึ้นด้วย
-
ดัชนีธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟียการสำรวจดัชนีจากผู้ผลิต 100คนในรัฐฟิลาเดลเฟีย ประเทศสหรัฐอเมริกาที่แสดงให้เห็นถึงทัศนคติของพวกเขาที่มีต่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในปัจจุบันและมุมมองที่ใกล้ที่สุดภายใน 6 เดือน ดัชนีนี้จะเป็นสัญญาณบ่งบอกการชะลอตัวของการเติบโตเมื่อดัชนีตัวเลขนั้นต่ำกว่า 0 ดัชนีนี้สามารถบ่งบอกถึงสิ่งที่คาดหวังจากดัชนี ISM (สถาบันการจัดการซัพพลาย) ดัชนีนี้เพิ่มขึ้นก็ส่งผลให้ค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯเพิ่มขึ้นด้วย
-
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโกPMI ชิคาโกคือผลจากการสำรวจผู้จัดการด้านจัดซื้อของอุตสาหกรรมในชิคาโกที่บอกลักษณะคำสั่งซื้อการผลิต ราคาส่งออกและสินค้าคงเหลือ หากดัชนีตัวเลขต่ำกว่า 50 นั่นบ่งบอกถึงภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ ดัชนีนี้เป็นสิ่งที่น่าจับตามองเพราะมันแสดงให้เห็นถึงดัชนีการผลิต ISMและมีผลกระทบอย่างมากในตลาด รายงานนี้ถุกเผยแพร่เมื่อวันทำการสุดท้ายของแต่ละเดือน เวลา 15:00 น. (GMT)
-
การใช้จ่ายส่วนบุคคลการใช้จ่ายส่วนบุคคลเป็นมาตรวัดที่ครอบคลุมถึงจำนวนเงินผู้บริโภคใช้จ่ายในแต่ละเดือน ค่าใช้จ่ายในการบริโภคสินค้าคงทนรวมถึงสินค้าอุปโภคบริโภคและบริการ ตัวเลขการใช้จ่ายของบุคคลที่มีสุขภาพดี หมายถึงผู้บริโภคจะซื้อสินค้าและบริการที่เป็นการเติมเชื้อเพลิงให้เศรษฐกิจและกระตุ้นการเจริญเติบโตของการส่งออก การายงานนี้มีประโยชน์มากโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการคาดการณ์ความกดดันของเงินเฟ้อ การดำเนินการส่วนเกิน บริโภคและการผลิตในระดับสูงอาจนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของราคาด้วยเช่นกันและแน่นอนว่าธนาคารกลางสหรัฐฯใช้มาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ได้รับมาจาก PCE ซึ่งเป็นมาตรวัดหลักของอัตราเงินเฟ้อ
ในทางกลับกันการใช้จ่ายส่วนบุคคลที่ต่ำลงเสมอนั้นอาจส่งผลต่อการส่งออกที่ลดลงและการชะลอตัวของเศรษฐกิจ -
ดัชนีการผลิต ISMดัชนีนี้ขึ้นอยู่กับการสำรวจกว่า 300 บริษัทการผลิตโดยสถาบันการจัดการซัพพลาย ดัชนีการผลิตISMจะทำการตรวจสอบการจ้างงาน สินค้าคงเหลือจากการผลิต คำสั่งซื้อใหม่ ผู้จัดจำหน่ายและการส่งสินค้า
โดยการตรวจสอบดัชนี ISM การผลิตนี้จะทำให้นักลงทุนเข้าใจสภาพเศรษฐกิจของประเทศมากขึ้น หากดัชนีนี้เพิ่มขึ้นนักลงทุนสามารถสรุปได้ว่าตลาดหุ้นจะเพิ่มขึ้นเพราะผลกำไรของบริษัทสูงขึ้น ในทางตรงกันข้ามอาจจะคิดถึงตลาดพันธบัตรซึ่งอาจลดลงในขณะที่ดัชนี ISM การผลิตเพิ่มขึ้นเพราะอัตราเงินเฟ้ออาจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว -
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI)ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจเหล่านี้ได้มาจากการสำรวจรายเดือนที่ให้ความรู้ความเข้าใจในเงื่อนไขทางธุรกิจในการให้บริการและภาคการผลิตของประเทศ ตัวเลขพาดหัวรายงานคือรายงานดัชนีที่สะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบ 50 ข้อที่มีต่อความเจริญและตกต่ำทางเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนอกเหนือจากใน 50 ข้อนั้นคือการเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่กว่าในสภาพธุรกิจ
-
ยอดขายบ้านใหม่ดัชนีนี้แสดงถึงจำนวนของที่อยู่อาศัยใหม่ที่ถูกขายในเดือนที่ผ่านมา การเพิ่มขึ้นของยอดขายบ้านที่แสดงให้เห็นการเจริญเติบโตของตลาดการเคหะซึ่งมีแนวโน้มเป็นแรงขับเคลื่อนของเศรษฐกิจ รายงานยอดการขายบ้านนั้นช่วยยืนยันแนวโน้มด้านการเคหะที่ถูกบันทึกก่อนหน้านี้ในขั้นตอนของการก่อสร้าง เช่นการอนุมัติการก่อสร้างอาคารและงานก่อสร้างเสร็จแล้วและยังถือว่าเป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญในการพัฒนาทางเศรษฐกิจในวงกว้าง ตัวเลขพาดหัวการรายงานคืออัตราการเปลี่ยนแปลงในการขายที่อยู่อาศัยจากเดือนก่อนหน้านี้
-
การอนุมัติการก่อสร้างอาคารตัวบ่งชี้นี้แสดงให้เห็นถึงจำนวนของใบอนุญาตก่อสร้างที่ถูกขอในประเทศในแต่ละเดือน ในการอนุมัติและใบอนุญาตใหม่บ่งชี้ให้เห็นว่าการเติบโตของตลาดที่อยู่อาศัยนั้นเพิ่มขึ้น เพราะโดยทั่วไปแล้วอสังหาริมทรัพย์จะนำไปสู่การพัฒนาทางเศรษฐกิจ ที่อยู่อาศัยนั้นมีแนวโน้มที่จะเติบโตได้ดีในช่วงเริ่มต้นและจะเสื่อมลงหลังจากที่ภาวะเศรษฐกิจเริ่มถดถอย ตัวเลขนี้สามารถนำมาใช้ในการคาดการณ์การเติบโตในอนาคตในทางเศรษฐกิจโดยรวมอื่นๆได้ด้วย ตลาดที่อยู่อาศัยที่แข็งแกร่งนี้มีแนวโน้มที่นำไปสู่การใช้จ่ายของผู้บริโภค ตัวเลขพาดหัวการายงานคืออัตราการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลในการอนุมัติการสร้างอาคารใหม่ของเดือนก่อนหน้านี้
-
การเริ่มก่อสร้างที่อยู่อาศัยตัวบ่งชี้นี้สะท้อนให้เห็นถึงอัตราการเจริญเติบโตในการก่อสร้างที่อยู่อาศัย การรายงานการเริ่มก่อสร้างที่อยู่อาศัยนี้ ทำหน้าที่เป็นตัวบ่งชี้วัดความแข็งแกร่งของภาคการก่อสร้างและตลาดที่อยู่อาศัย นักเศรษฐศาสตร์ยังใช้ตัวเลขเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญ สำหรับเศรษฐกิจโดยรวมเนื่องจากการเริ่มก่อสร้างที่อยู่อาศัยนั้นเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วในวงจรธุรกิจ จำนวนของการเริ่มก่อสร้างที่อยู่อาศัยจะหดตัวเมื่อเศรษฐกินเริ่มถดถอยและจะเติบโตอย่างรวดเร็วเมื่อความเจริญทางเศรษฐกิจเริ่มต้นขึ้นดังนั้นตัวเลขของการเริ่มก่อสร้างที่อยู่อาศัยจะช่วยคาดการณ์ตัวเลขการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ
ตัวเลขพาดหัวการรายงานนี้คืออัตราการเปลี่ยนแปลงของการเริ่มก่อสร้างที่อยู่อาศัย -
ยอดขายบ้านตัวบ่งชี้ยอดการขายบ้านนี้คือบันทึกการขายที่อยู่อาศัยเคยถุกครอบครองมาก่กนอหน้านี้ในประเทศสหรัฐอเมริกา รายงานนี้มีได้ประเมินความถูกต้องของสภาพตลาดที่อยู่อาศัยและเพราะการเติบโตอย่างรวดเร็วของตลาดที่อยู่อาศัยในวงจรความผงผันของธุรกิจซึ่งยังเป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญเมื่อที่อยู่อาศัยเป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มีต่อเศรษฐกิจ
ขณะที่การขายบ้านมือสองไม่ได้ถูกนับรวมใน GDPที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ผู้ขายบ้านมือสองมักจะใช้เงินทุนที่มาจากการขายทรัพย์สินเพื่อการบริโภคซึ่งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ การใช้จ่ายที่สูงของผู้บริโภคอาจเป็นการช่วยเพิ่มแรงกดดันให้กับเงินเฟ้อในขณะเดียวกันก็เป็นการช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตยิ่งขึ้น
รายงานยอดขายบ้านไม่เหมือนเป็นตัวชี้วัดที่อยู่อาศัยอื่นๆเช่น ยอดขายบ้านใหม่หรือใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร เมื่อใดที่ยอดขายบ้านได้ถูกเผยแร่ออกมาสภาวะการตลาดอาจมีการเปลี่ยนแปลง -
ความเชื่อมั่นผู้บริโภคความเชื่อมั่นผู้บริโภคคือมาตรวัดความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจที่เป็นที่นิยมมาก ตัวเลขที่ได้มาจากการสำรวจสอบถามผู้บริโภคกว่า1000คนเกี่ยวกับรูปแบบการใช้จ่ายส่วนบุคคลและความหวังด้านเงินเฟ้อ โดยทั่วไปแล้วความเชื่อมั่นที่สูงขึ้นของผู้บริโภคนำไปสู่การใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นซึ่งนำไปสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อ
ตัวเลขพาดหัวการรายงานที่โชว์ขึ้นให้เห็นมากกว่า 50 แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเชิงบวก ส่วนจำนวนตัวเลขที่ต่ำกว่า 50 แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเชิงลบ ยิ่งตัวเลขเพิ่มมากขึ้นเท่าไหร่ ยิ่งแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นยิ่งมากขึ้นเท่านั้น -
ดุลการค้าดุลการค้าคือความแตกต่างระหว่างการนำเข้าและการส่งออกของสินค้า การขาดดุลการค้าระบุถึงการนำเข้าสินค้ามีมากขึ้นกว่าการส่งออก เมื่อการส่งออกมากกว่าการนำเข้าจึงเกิดการเกินดุลการค้า การเกินดุลการค้านั้นระบุว่าเงินที่กำลังจะเข้ามาในประเทศคือเงินจากการแลกเปลี่ยนกับสินค้าในส่งออก สมดุลของการค้าเกิดได้จากการแบ่งแยกระหว่างสินค้าและการบริการที่มีความสมดุลดุลการค้าซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของบัญชีเดินสะพัด
-
Grand Choice
Contest by
InstaForexInstaForex always strives to help you
fulfill your biggest dreams.เข้าร่วมการแข่งขัน -
Chancy Depositฝากเงินในบัญชีของคุณใน $3,000 และรับ $6000 ไปเพิ่ม!
ใน ธันวาคม ทางเราได้ออก$6000 ภายในแคมเปญ Chancy Deposit !
คว้าโอกาสที่จะชนะด้วยการฝากเงิน $3,000 ไปในบัญชีเทรด เมื่อทำตามเงื่อนไขนี้แล้ว คุณก็จะกลายเป็นผู้เข้าร่วมแคมเปญเข้าร่วมการแข่งขัน -
เทรดให้ดีแล้วคว้ารางวัลเติมเงินในบัญชีของคุณอย่างน้อย $500 สมัครเข้าร่วมการแข่งขัน และลุ้นรับรางวัลอุปกรณ์ติดต่อสื่อสารแบบพกพาเข้าร่วมการแข่งขัน